ไม่พบผลการค้นหา
'ประเสริฐ' ยันได้ทีม 'วีรศักดิ์' มาร่วมงานเพื่อเสริมศักยภาพในพื้นที่โคราช เชื่อ 'ประยุทธ์' ปราศรัยใหญ่โคราช ให้ปชช. ได้เปรียบเทียบ ด้าน 'ชลน่าน' ชี้ต้องดูระเบียบ กกต. ผม 'ประวิตร' ลงพื้นที่ 'นครปฐม-ราชุบี' หาเสียงในเวลาราชการ

วันที่ 2 ก.พ. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย ภายหลังการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่ทีมงานของ วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ได้เปิดตัวกับพรรคเพื่อไทยนั้น โดย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ว่า ได้ทีมของวีรศักดิ์มาประมาณ 10 คน ซึ่งได้มีบุตรชาย หลาน และทีมงานที่มีศักยภาพเข้ามาเพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่พรรคเพื่อไทยในพื้นที่นครราชสีมา มั่นใจว่านครราชสีมาในครั้งนี้จะได้ยกจังหวัด และเชื่อว่าประชาชนจะตัดสินใจ แต่ก็ยังไม่ประมาทพรรคอื่น 

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติจะไปปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครราชสีมา ประเสริฐ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ แต่ในฐานะพรรคเพื่อไทยได้มีการวางโปรแกรมไว้แล้ว หลังจากเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครครบทุกเขต และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แบ่งเขตเสร็จสิ้น พรรคเพื่อไทยจะไปปราศรัยใหญ่ที่นั่น

ขณะที่ ชลน่าน กล่าวว่า ต้องขอบคุณสื่อผ่านไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะไปใช้เวทีปราศรัยที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งจะเป็นการหาเสียงให้แก่พรรคเพื่อไทย เพราะมั่นใจว่าประชาชนจะเห็นการเปรียบเทียบทั้งในเรื่องนโยบาย และตัวผู้สมัคร 

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่ จ.นครปฐม และจ.ราชบุรี แต่กลับมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. มองว่าเป็นการหาเสียงในเวลาราชการหรือไม่ 

ชลน่าน กล่าวว่า ต้องไปดูเงื่อนไขเวลาที่เขากระทำการ เพราะมันมีคำว่าเวลาราชการอยู่ ถ้าเขาทำราชการเสร็จสิ้น แล้วต่อเนื่องไปทำกิจกรรมพรรคการเมือง ก็ถือว่านับได้ว่าไม่ใช้อำนาจหน้าที่ในทางราชการไปหาเสียง แต่ถ้าเป็นระยะเวลาราชการ หรือปฏิบัติราชการอยู่แล้วเข้าข่ายใช้ทรัพยากร ใช้หน้าที่ และอำนาจไปในทางที่เป็นการหาเสียง ซึ่งบทบัญญัติของกฎหมาย และระเบียบของ กกต. ระบุไว้ชัดเจน ก็ต้องไปดูในรายละเอียด แม้จะมียื่นลาช่วงบ่าย ซึ่งมันสามารถตรวจสอบได้ ส่วนจะไปยื่นร้องต่อ กกต. หรือไม่ ต้องดูในข้อเท็จจริงอีกที 

"เรียนด้วยความเคารพ มีหน้าที่ และอำนาจอยู่แล้ว ควรใช้ให้เป็นประโยชน์กับประชาชน ข้อห้ามที่ห้ามใช้เวลาราชการไปกับการหาเสียง มันมี พี่น้องเขารู้ว่าเอาเปรียบพรรคอื่นอย่างไร ขอให้ประชาชนตัดสิน เพราะแค่นี้เขาก็แสวงหาประโยชน์เพื่อตัวเอง ถ้าเขาได้กลับมาเป็นรัฐบาล ก็จะแสวงหาผลประโยชน์ตัวเองเช่นกัน" ชลน่าน กล่าว