ที่รัฐสภา พรรคก้าวไกล เเถลงจุดยืนไม่เห็นด้วยต่อกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเเละสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นำโดย ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ สมชาย แสวงการ ส.ว. เสนอญัติต่อประธานรัฐสภาเพื่อให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า รัฐสภามีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 256 เพื่อให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุว่า ผู้ยื่นญัตติดังกล่าวเห็นว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่มีบทบัญญัติใดให้อำนาจรัฐสภาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีแต่อำนาจแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราเท่านั้น ดังนั้น การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ม.256 ให้มี สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมทั้งของ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และของประชาชนที่เข้าชื่อกัน รวม 3 ฉบับ จึงเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนั้น พรรคก้าวไกลเห็นด้วยว่า ไพบูลย์และคณะไม่ใช่แค่การเตะถ่วงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการยุติหรือไม่อนุญาตให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาแทนที่รัฐธรรมนูญ ฉบับ คสช. โดยเด็ดขาด ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อให้มี ส.ส.ร. มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นอำนาจโดยชอบของรัฐสภาและเป็นอำนาจโดยชอบของประชาชน ผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ การจัดทำรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ผ่าน ส.ส.ร. จะเป็นกุญแจดอกสำคัญเพื่อเปิดประตูหาทางออกจากวิกฤตการเมืองให้แก่ประเทศไทย
ซึ่ง รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 255 ได้กำหนดข้อห้ามไว้เพียงว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ จะกระทํามิได้ ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 ทั้งสามฉบับของรัฐบาล ฝ่ายค้าน และประชาชน ก็มิได้เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าวแต่ประการใด
นอกจากนี้ เลขาธิการพรรคก้าวไกลยังระบุว่า การร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่มาแทนที่ฉบับเก่าโดยกระบวนการทางประชาธิปไตยไม่ว่าจะผ่านรัฐสภาหรือผ่าน ส.ส.ร.ในอดีตประเทศไทยได้เคยทำกันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น รัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ. 2489 หรือ พ.ศ. 2540 แนวคิดของไพบูลย์ และคณะจึงเป็นแนวคิดที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย การเสนอญัตตินี้เป็นการแช่แข็งประเทศไทย เพียงเพื่อทำให้รัฐธรรมนูญของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช. ) เป็นรัฐธรรมนูญ ตราบนิรันดร์ โดยไพบูลย์และคณะเห็นว่า รัฐธรรมนูญมีเจตนารมณ์ให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ จะต้องมีบทบัญญัติไว้ให้กระทำได้เท่านั้น ดังเช่นใน รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 หรือฉบับ 2549 เป็นต้น
“การบอกว่า รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นฉบับถาวร ไม่ใช่ฉบับชั่วคราว จึงไม่บัญญัติให้อำนาจรัฐสภาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รัฐสภาจึงไม่มีอำนาจแก้ไขให้มี ส.ส.ร. การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะจะเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ การจัดทำประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ ก็กระทำมิได้เช่นกัน ดังนั้น โดยสรุปในความหมายของคุณไพบูลย์และคณะก็คือ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ว่าจะโดยอาศัยอำนาจของรัฐสภา หรืออาศัยอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญของประชาชนในทางใดๆจะไม่สามารถจะกระทำได้เลย เพราะล้วนแต่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ประเทศไทยต้องถูกปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญ ฉบับ คสช. ไปตลอดกาล ดังนั้น เมื่อถึงที่สุดแล้ว แนวคิดและการตีความของคุณไพบูลย์และคณะก็คือแนวคิดที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย เพราะเท่ากับเป็นการยืนยันว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประเทศไทย จะไม่สามารถกระทำได้เลยตามกระบวนการของรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย ประเทศไทยจะรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ด้วยวิธีการ รัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญเท่านั้น”
ชัยธวัช ยังระบุด้วยว่า หากญัตตินี้ผ่านจะถือว่าเป็นการปิดประตูการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใต้กระบวนการประชาธิปไตย จึงขอเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาลด้วยว่าควรต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าจะร่วมพายเรือให้โจรนั่งหรือจะตลบแตลงแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง