เราอาจจะเคยชินกับรถบ้าน ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน เหมือนเป็นบ้านอีกหลังและเคลื่อนที่ได้ และในปัจจุบันก็มีรถพ่วง เป็นตัวเลือกให้การท่องเที่ยวนอกสถานที่ มีสีสันมากขึ้น ตอกย้ำว่าตลาดรถบ้าน ทั้งมือ 1 และมือสองกำลังโตอย่างมีนัยสำคัญ
ผู้เล่นในธุรกิจรถบ้านไทย มีทั้งผู้นำเข้าอิสระ และผู้แทนจำหน่ายรถบ้านมือสอง แต่ในต่างประเทศ มีหลายราย หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ อย่าง Airstream แบรนด์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ ค.ศ. 1931 หรือ พ.ศ. 2474 มีชื่อเสียงอย่างมาก จากการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความทนทาน และมีจุดเด่นที่การออกแบบฟังก์ชั่นภายในรถให้มีความคงทน แข็งแรง แต่ภายในมีความหรูหรา
เพราะรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน ทำให้ราคารถบ้าน สูงขึ้นตามไปด้วย บางคันมีราคาสูงถึง 10 กว่าล้านบาท ลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับอายุ 40 ปีขึ้นไป เป็นลูกค้าระดับบน คือกลุ่มคนมีกำลังซื้อ
แต่กลุ่มคนที่อายุตั้งแต่ 30 ปี ขึ้นไป มีรายได้ปานกลางและเริ่มมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้น พวกเขามีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ ต้องการผจญภัยไปในที่ต่างๆ ด้วยพาหนะที่เข้าถึงธรรมชาติ ดังนั้น รถพ่วง ซึ่งเป็นตัวเลือกใหม่แทนรถบ้าน จึงมีคนสนใจมากกว่า เพราะมีราคาที่ถูกกว่ามาก อย่างรถพ่วงคันเล็ก ขนาด 16 ฟุต ราคา 2 ล้านกว่าบาท แต่รถบ้านที่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย ราคา 11 ล้านบาท เป็นอีกทางเลือกของคนอยากมีรถบ้านด้วยงบประมาณที่น้อยกว่า
การใช้งานระหว่างรถพ่วง และ รถบ้าน แตกต่างกันตรงที่การมีรถลาก โดยรถพ่วงมีความจำเป็นต้องมีรถลากที่มีขนาดเครื่องใหญ่ตามไซด์ของรถพ่วง ส่วนรถบ้าน สามารถขับขี่ออกไปได้ทันที
ตลาดรถบ้านและรถพ่วงจะยังคงเติบโตมากขึ้น ตามกระแสความนิยมของกลุ่มผู้รักการท่องเที่ยวในรูปแบบผจญภัย และหากอุทยานการท่องเที่ยวต่างๆ สนับสนุนการใช้ระบบน้ำและไฟ มากขึ้น จะยิ่งสนับสนุนให้ยอดขายรถบ้านสูงขึ้นตามไปด้วย
รถบ้าน เครื่องยนต์เบนซ์ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 11 ล้านบาท ส่วนรถพ่วง เพื่อการลากจูง ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2,000,000 ถึง 5,000,000 ล้านบาท เป็นตัวเลือกให้กลุ่มคนรักการท่องเที่ยว ชอบเปลี่ยนบรรยากาศ และพอมีกำลังทรัพย์ ครอบคลุมลูกค้าระดับบน และ ระดับกลาง เพราะการซื้อรถพ่วงหรือรถบ้านผ่านดีลเลอร์ ผู้ซื้อสามารถดาวน์และผ่อนรายเดือนได้เหมือนกันรถยนต์ทั่วไป แต่ถ้าหากซื้อผ่านผู้นำเข้าอิสระ ขึ้นอยู่กับการตกลงกัน
รถบ้าน ถือเป็นอีกตลาดรถอีกประเภทที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโตได้มาก ยืนยันได้จากยอดจองในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการร่วมงานจัดแสดงรถยนต์ครั้งแรกของ บริษัท คาร์แมกซ์ พระราม 9 กรุ๊ป โดยในงานสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 25 คัน จากโควต้าทั้งปี 50 คัน