สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและภาวะโลกร้อน มีผลต่อสิ่งแวดล้อมในหลายประเทศ ล่าสุด ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีการจัดพิธีศพให้กับ 'ธารน้ำแข็ง' ในยอดเขาพีโซล ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะธารน้ำแข็งในบริเวณดังกล่าวละลายหายไปอย่างรวดเร็วในช่วงเดือนที่ผ่านมา

กลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในสวิตเซอร์แลนด์หลายสิบคนร่วมกันเดินขบวนขึ้นไปยังยอดเขาพีโซลช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้คนตระหนักถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับธารน้ำแข็งในประเทศ โดย 'อเลสซานดา เดเกียโคมี' ผู้อำนวยการ 'สมาคมปกป้องสภาพภูมิอากาศแห่งสวิตเซอร์แลนด์' บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ธารน้ำแข็งบนภูเขาพีโซลละลายอย่างรวดเร็วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าธารน้ำแข็งแห่งนี้จะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,700 เมตร แต่สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงทำให้พื้นที่ส่วนปลายของธารน้ำแข็งละลายหายไปราว 3.6 เมตร 

ปรากฏการณ์นี้ทำให้นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและประชาชนชาวสวิสพร้อมใจกันแต่งชุดดำเดินขึ้นเขา เพื่อร่วมพิธีศพของธารน้ำแข็งที่หายไป และเป็นช่วงเดียวกับที่มีการประชุมนานาชาติด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่สำนักงานสหประชาชาติในนครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกาตลอดทั้งสัปดาห์นี้ด้วย ทำให้กลุ่มนักอนุรักษ์อาศัยจังหวะนี้ออกมารณรงค์เคลื่อนไหวให้คนทั่วโลกใส่ใจปัญหานี้อย่างจริงจัง

ส่วนพิธีศพที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงธารน้ำแข็งไม่ได้เกิดขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์เพียงแห่งเดียว เพราะก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในไอซ์แลนด์ก็เคยจัดขบวน 'ชุดดำ' เดินขึ้นเขาอ็อกยาคุลล์ (Okjakull) รวมถึงปักแผ่นหินไว้อาลัยบริเวณจุดที่ธารน้ำแข็งละลายหายไป เพื่อเตือนให้คนในไอซ์แลนด์ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมกันให้มากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ก็ออกมาเปิดเผยว่า ธารน้ำเเข็งในกรีนแลนด์ ทางตอนเหนือของมหาสมุทรอาร์กติก ละลายมากถึง 11 ล้านตันภายใน 24 ชั่วโมง โดยย้ำว่ามีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ รวมถึงคลื่นความร้อนที่เข้าปกคลุมภูมิภาคยุโรปในช่วงนั้น ส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระบุด้วยว่า คลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมมหาสมุทรอาร์กติกในช่วงนั้นเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงสุดนับตั้งปี 1950 เป็นต้นมา