อินสตาแกรมประกาศว่าจะใช้มาตรการเข้มงวดมากขึ้นในการควบคุมโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าลดน้ำหนักและการศัลยกรรมเสริมความงาม หลังถูกวิจารณ์ว่าโฆษณาเหล่านี้ทำลายสุขภาพกายและใจของวัยรุ่นที่เล่นโซเชียลมีเดีย
อินสตาแกรมประกาศว่า อินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นเจ้าของอินสตาแกรม จะใช้มาตรการที่เข้มงวดเกี่ยวกับโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าสำหรับการลดน้ำหนักและศัลยกรรมเสริมความงาม พร้อมส่งเสริมให้ผู้ใช้ร่วมกันรีพอร์ตโพสต์ที่เข้าข่ายว่าจะโฆษณาสินค้าเกินจริง
เอ็มมา คอลลินส์ ผู้จัดการนโยบายสาธารณะของอินสตาแกรมกล่าวว่า พวกเขาต้องการให้อินสตาแกรมเป็นพื้นที่ที่เป็นพลังบวกสำหรับผู้ใช้ทุกคน และนโยบายที่ก็เป็นส่วนหนึ่งในความตั้งใจที่จะลดแรงกดดันที่ผู้ใช้อาจรู้สึกจากการเล่นโซเชียลมีเดีย อินสตาแกรมจึงปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายโซเชียลมีเดีย ก่อนจะออกมาตรการเข้มงวดนี้ออกมาใช้
นโยบายใหม่นี้กำหนดว่า บางโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับการลดความอ้วนและการศัลยกรรมเสริมความงามจะถูกซ่อนไม่ให้ผู้ใช้ที่อายุไม่ถึง 18 ปีเห็น โดยเฉพาะโพสต์ที่กระตุ้นการขายด้วยการประกาศโปรโมชั่นลดราคา หรือแจกโค้ดลดราคา เพื่อลดแรงกระตุ้นให้วัยรุ่นรู้สึกว่าจะต้องลดน้ำหนักหรือทำศัลยกรรม ขณะที่โพสต์ที่โฆษณาเกินจริงจะถูกลบทิ้ง เช่น สินค้าที่โฆษณาว่าจะช่วยลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วราวกับปาฏิหารย์
ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคนรุ่นใหม่จากการโปรโมตสินค้าลดความอ้วนและการศัลยกรรมแบบเกินจริง ขณะที่อินฟลูเอนเซอร์อย่างคิมและโคลอี้ คาร์เดเชียน รวมถึงไคลี เจนเนอร์ก็มักถูกวิจารณ์ว่าขายของที่เป็นอันตรายต่อวัยรุ่น และสินค้าส่วนใหญ่ก็มักใช้ไม่ได้ผลจริง
ช่วงก.พ.ที่ผ่านมา สตีเฟน พาววิส ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพของอังกฤษ (NHS) เรียกร้องให้แบนโฆษณาบนโซเชียลมีเดียที่มีคนดังชักชวนให้ใช้ยาลดความอ้วน พร้อมระบุว่า สินค้าเหล่านี้ทำลายสุขภาพกายและสุขภาพใจของวัยรุ่น
ด้านจามีลา จามิล นักแสดงและนักเคลื่อนไหวเรื่องการยอมรับรูปร่างน้ำหนักที่หลากหลาย กล่าวว่า ท่าทีของอินสตาแกรมครั้งนี้เป็น “ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่” ในการต่อสู้กับอุตสาหกรรมสินค้าสำหรับไดเอตและดีท็อกซ์ร่างกาย เธอกล่าวว่า เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมได้แสดงจุดยืนในการปกป้องสุขภาพกายและใจของคนบนโลกออนไลน์ ถือเป็นการส่งสารสำคัญไปทั่วโลก
จามิลเล่าว่า เธอเคยต่อสู้กับโรคกลัวอ้วนมาตลอดช่วงที่เป็นวัยรุ่น และเธอได้รับรู้และ มีประสบการณ์ส่วนตัวที่ต้องทุกข์ทรมานกับการหลอกลวงของอุตสาหกรรมยาลดความอ้วน อาหารเสริมและดีท็อกซ์ เธอจึงรณรงค์ “I Weigh” ด้วยความหวังว่า คนรุ่นใหม่จะได้รับความเคารพและการปกป้องจากดาราและอินฟลูเอนเซอร์ที่พวกเขาติดตาม