ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - วิจัยชี้ ลดโลกร้อนช่วยลดไข้เลือดออก - Short Clip
World Trend - ไปดูคอนเสิร์ตช่วยยืดอายุขัย - Short Clip
World Trend - ประชากรญี่ปุ่นลดต่อเนื่อง 10 ปี - Short Clip
World Trend - จีนเปิดตัวสวนสนุก VR เต็มรูปแบบแห่งแรกของโลก - Short Clip
World Trend - ผู้บริโภคเกาหลีแบนสินค้าญี่ปุ่น - Short Clip
World Trend - พลังงานสะอาดในซาฮาราอาจช่วยชะลอโลกร้อน - Short Clip
World Trend - ซาอุดีอาระเบียเริ่มก่อสร้างเมืองบันเทิงในประเทศ - Short Clip
World Trend - ทิ้ง 'คอนแทคเลนส์' ลงชักโครก ปัจจัยหลักสร้างมลพิษทางน้ำ - Short Clip
World Trend - จีนเตรียมเปิดอุทยานแห่งชาติแพนด้ายักษ์ - Short Clip
World Trend - แอปเปิลเปิดตัวไอโฟนใหม่รองรับ 2 ซิม - Short Clip
World Trend - วิตามินเสริมไม่ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง - Short Clip
World Trend - หุ้นเทสลาร่วงหลังรายได้ไตรมาส 4 น่าผิดหวัง - Short Clip
World Trend - ศก.เวียดนามอาจเป็นเบอร์ 1 เอเชียใน 10 ปี - Short Clip
World Trend - 'ดิสนีย์แลนด์' เผยร่างสวนสนุก 'โฉมงามกับเจ้าชายอสูร' - Short Clip
World Trend - ญี่ปุ่นห้ามคนเมาใช้โดรน - Short Clip
World Trend - เด็กไทยเสี่ยงภัยออนไลน์เกินค่าเฉลี่ยโลก - Short Clip
World Trend - สตาร์ตอัปสหรัฐ เตรียมสร้างโรงแรมบนอวกาศ - Short Clip
World Trend - รถพลังงานไฟฟ้าจะถูกกว่ารถใช้น้ำมันใน 7 ปี - Short Clip
World Trend - สิงคโปร์เตรียมเก็บภาษีคาร์บอน รักษาสิ่งแวดล้อม - Short Clip
World Trend - ทั่วโลกต้องเร่งรับมือ 'ภาวะโลกร้อน' ก่อนจะสายเกินแก้ - Short Clip
World Trend - พื้นดินใต้ซิลิคอน แวลลีย์ ยุบตัวอย่างรวดเร็ว - Short Clip
Mar 10, 2018 10:45

ซิลิคอน แวลลีย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ทางตอนใต้ของพื้นที่อ่าวซานฟรานซิสโก และเป็นที่ตั้งของบริษัท เทคโนโลยีมากมายหลายแห่ง แต่ตอนนี้กำลังจะเป็นที่ดินที่จมอยู่ใต้ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายปีจากนี้

รายงานของวารสาร Science Advances ระบุว่า การจมหรือการทรุดตัวของพื้นดินในซิลิคอน แวลลีย์ บวกกับระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้อาณาจักรเทคโนโลยีแห่งนี้ เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมรุนแรงถึงสองเท่าในปี 2100 โดยซิลิคอน แวลลีย์นั้น เป็นพื้นที่ทางตอนใต้ของพื้นที่อ่าวซานฟรานซิสโก ซึ่งในขณะนี้ชายฝั่งแถบอ่าวซานฟรานซิสโกส่วนใหญ่ก็ค่อยๆจมลงราว 2 มิลลิเมตรต่อปี และในหลายพื้นที่ก็พบว่ามีอัตราการทรุดตัว 10 มิลลิเมตร หรือราว ครึ่งนิ้วต่อปีอีกด้วย 

ทั้งนี้ความเสี่ยงที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มาจากสิ่งก่อสร้าง ที่ส่วนใหญ่จะสร้างในบริเวณที่มีการถมที่ขึ้นมา เช่นสนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก ซึ่งรองรับการจอดเทียบของเครื่องบินปีละกว่า 200,000 เที่ยว และจำนวนผู้โดยสารผ่านสนามบินอีกว่า 56 ล้านคนต่อปี //นอกจากนี้จุดที่น่าเป็นห่วงอีกหนึ่งจุดก็คือ ฟอสเตอร์ ซิตี้ ที่ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างซานฟรานซิสโก และ แซนโฮเซ

นอกจากนี้นับตั้งแต่ราคาอสังหาริมทรัพย์ในซานฟารซิสโกมีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้มีการเพิ่มจำนวนของการก่อสร้างบริษัทต่างๆ จนเกิดความเสี่ยงต่อแผ่นดินยุบตัว อย่างเช่นเกาะ Treasure Island ที่ตั้งอยู่ระหว่าง ซานฟราซิสโก และโอ๊คแลนด์ ก็ยุบตัวลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ราว 12-20 มิลลิเมตรต่อปีเลยทีเดียว 

และที่สำคัญจากการศึกษาก่อนหน้านี้ ไม่ได้คำนึงถึงการจมลงของพื้นดินว่าอย่างน้อยราว 51 ตารางกิโลเมตรของชายฝั่งซานฟรานซิสโก จะเผชิญกับความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมภายในปี 2100 ซึ่งขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่าปัจจุบัน มีพื้นที่ถูกคุกคามจากน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 125 ตารางกิโลเมตรแล้ว และสิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น เกิดจากการที่น้ำแข็งละลายประมาณกินพื้นที่กว่า 413 ตารางกิโลเมตร และจะมีความเสียงต่อน้ำท่วมใหญ่ในปลายศตวรรษนี้ 




Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog