ไม่พบผลการค้นหา
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขึ้นเวทีรณรงค์หาเสียงระหว่างการเลือกตั้งกลางสมัย ที่กำลังจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ย.) เพื่อคว้าที่นั่งของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในรัฐสภาสหรัฐฯ ในโค้งสุดท้าย ในขณะที่ ไบเดน และ ทรัมป์ ได้อ้อนวอนต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในมลรัฐนิวยอร์กและมลรัฐฟลอริดาตามลำดับ เพื่อให้ลงคะแนนให้พรรคของตน

แรงความนิยมและกระแสการเลือกตั้งกลางสมัย เพิ่งเปลี่ยนไปสู่พรรครีพับลิกัน ซึ่งกำลังพยายามต่อสู้กับที่นั่งของ ส.ส. และ ส.ว.ในรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันมีพรรคเดโมแครตควบคุมเสียงข้างมาก ทั้งนี้ ผลโพลชี้ว่าพรรครีพับลิกันมีโอกาสนำในการคว้าที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ยังคงต้องลุ้นเสี่ยงกับผลเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ทั้งนี้ หากพรรครีพับลิกันสามารถคว้าเสียงข้างมากในสภาใดสภาหนึ่งได้ ความพ่ายแพ้นี้จะเป็นอุปสรรคต่อวาระทางกฎหมายของประธานาธิบดีไบเดนอย่างรุนแรง

ในการรณรงค์หาเสียงในวันสุดท้ายของวันจันทร์นี้ (7 พ.ย.) พรรคของไบเดนอาจจะพ่ายแพ้ในบางพื้นที่ แม้จะเป็นพื้นที่ของพรรคเดโมแครตเสียเอง ทั้งนี้ ไบเดนพูดปราศรัยที่การหาเสียงที่มลรัฐนิวยอร์กเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (6 พ.ย.) เพื่อสนับสนุน เคธี โฮชูล ผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเธอกำลังต่อสู้อยู่กับคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง ลี เซลดิน ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันที่ได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ 

นอกจากไบเดนแล้ว โฮชูลยังได้รับความช่วยเหลือในการขึ้นหาเสียงจาก บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี และ ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากทรัมป์

ในสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไบเดนระบุว่าการเลือกตั้งกลางสมัยในครั้งนี้เป็น “จุดเปลี่ยน” ซึ่งจะกำหนดอนาคตสหรัฐฯ ไปในอีก 20 ปีข้างหน้า ไบเดนบอกผู้มีสิทธิเลือกตั้งในวิทยาลัยซาราห์ ลอว์เรนซ์ ว่า พวกเขากำลังเลือกระหว่าง “วิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันโดยพื้นฐานสำหรับอเมริกา" ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ ซึ่งเคยครองตำแหน่งประธานาธิบดีในยุคก่อน ได้หาเสียงอยู่ในไมอามี ด้วยการปราศรัยยาวนานกว่าหนึ่งชั่วโมง พร้อมโจมตีว่าพรรคเดโมแครตนะนำประเทศสหรัฐฯ ไปสู่ “ลัทธิคอมมิวนิสต์”

“พรรคเดโมแครตต้องการเปลี่ยนอเมริกา ให้เป็นคอมมิวนิสต์คิวบา หรือพวกสังคมนิยมเวเนซุเอลา” ทรัมป์ปราศรัยให้ฐานเสียงตนฟัง “ถึงชาวอเมริกันเชื้อสายฮิสแปนิกทุกคนในฟลอริดาและทั่วทั้งประเทศ เรายินดีต้อนรับคุณอย่างอ้าแขนรับแบบกว้างๆ สู่พรรค (รีพับลิกัน) ของเรา” ทรัมป์กล่าวเสริม

ทรัปม์ยังบอกใบ้อีกว่า เขาจะกลับมาท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยหน้าเมื่อปี 2567 ที่จะถึงนี้ พร้อมกันนี้ ทรัมป์ระบุกับฐานเสียงในการหาเสียงที่มลรัฐโอไฮโอในช่วงวันจันทร์ว่า “อย่าเพิ่งรีบเปลี่ยนช่องไปไหน”

ผลโพลชี้ว่า พรรคเดโมแครตมีแนวโน้มที่จะสูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ การควบคุมเสียงที่นั่งวุฒิสภาของพรรคเดโมแครต อาจจะขึ้นอยู่กับผลของการแข่งขันที่รุนแรงดุเดือดในมลรัฐเพนซิลเวเนีย จอร์เจีย และเนวาดา 

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ขณะนี้มีการลงคะแนนเสียงล่วงหน้าไปแล้วกว่า 40 ล้านคน แซงหน้าจำนวนผู้ลงคะแนนเสียงล่วงหน้าในช่วงปี 2561 โดยตามปกติแล้ว บัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์มักจะใช้เวลาในการนับคะแนนนานกว่าการลงคะแนนด้วยตนเองในคูหา ซึ่งอาจทำให้การนับคะแนนยืดยาวออกไปในคืนวันอังคารนี้ โดยมีรัฐสมรภูมิสำคัญหลายแห่ง เช่น มลรัฐวิสคอนซินและเพนซิลเวเนีย ที่ออกคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งเริ่มนับคะแนนจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง

โดยในวันนี้ ไบเดนจะไปปราศรัยในมลรัฐแมริแลนด์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพรรคเดโมแครต ในขณะที่ทรัมป์จะปราศัรยในตอนเย็นที่มลรัฐโอไฮโอให้กับ เจ ดี แวนซ์ นักเขียนและอดีตนักวิจารณ์ทรัมป์ ทั้งนี้ จิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง กำลังมุ่งหน้าไปหาเสียงยังมลรัฐเวอร์จิเนีย เพื่อปราศรัยสนับสนุน เจนนิเฟอร์ เวกซ์ตัน สมาชิกสภาคองเกรส และ รอน เดอซานติส ผู้ว่าการจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งจะเป็นคู่แข่งของทรัมป์ในศึกตัวแทนพรรครีพัลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2567 ที่จะเปิดเวทีปราศรัยในไมอามี


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-us-canada-63537684?fbclid=IwAR0RNDxDEDKN5N9P8_E0sxqlZTGf3LppDrpawsjk_wV-wdhNlOpWBLzyJ9c