จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็น "การยกระดับที่สำคัญและน่ากังวล" ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนรัสเซียของเกาหลีเหนือ เคอร์บีกล่าวอีกว่า สหรัฐฯ จะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นไปหารือที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และจะมีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม ต่อผู้ที่ทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนอาวุธ
อย่างไรก็ดี รัสเซียได้ปฏิเสธการมีส่วนร่วมใดๆ ของเกาหลีเหนือในการทำสงครามที่ยูเครนของตัวเอง แม้ว่าในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา จะปรากฏรายงานข่าวว่า คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ได้เดินทางเยือนรัสเซียเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางทหารที่อาจเกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เคยกล่าวหาเกาหลีเหนือว่าเป็นผู้จัดหาอาวุธให้รัสเซีย แต่การแถลงในครั้งนี้ของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ได้แบ่งปันรายละเอียดเกี่ยวกับขีปนาวุธนำวิถี ซึ่งเป็นจรวดนำวิถีด้วยตนเองที่สามารถเข้าถึงเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไป 900 กิโลเมตร ที่มีการกล่าวหาว่าเป็นของเกาหลีเหนือ ซึ่งรัสเซียได้นำไปใช้ในการทำสงครามที่ยูเครน
เคอร์บีกล่าวระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดี (4 ม.ค.) ว่า การจัดซื้อขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือของรัสเซีย ถือเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติโดยตรง “เราจะเรียกร้องให้รัสเซียรับผิดชอบต่อการละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศของตนอีกครั้ง” เคอร์บีกล่าว นอกจากนี้โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ เชื่อว่ารัสเซียกำลังวางแผนที่จะซื้อขีปนาวุธพิสัยใกล้จากอิหร่าน แต่ยังไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว
ในการบรรยายสรุป เคอร์บียังเรียกร้องให้รัฐสภาสหรัฐฯ อนุมัติเงินทุนเพิ่มเติมของสหรัฐฯ สำหรับช่วยเหลือยูเครน "โดยไม่ล่าช้าออกไป" โดยเคอร์บีย้ำว่า “การตอบโต้ที่มีประสิทธิผลมากที่สุดต่อความรุนแรงอันน่าสยดสยองของรัสเซียต่อชาวยูเครน คือการมอบขีดความสามารถด้านการป้องกันทางอากาศที่สำคัญแก่ยูเครนและยุทโธปกรณ์ทางทหารประเภทอื่นๆ ต่อไป”
“อิหร่านและเกาหลีเหนือกำลังยืนอยู่เคียงข้างรัสเซีย ชาวยูเครนสมควรที่จะรู้ว่าชาวอเมริกันและรัฐบาลนี้จะยังคงยืนหยัดเคียงข้างพวกเขาต่อไป” เคอร์บีระบุ ทั้งนี้ ยูเครนเตือนว่าความพยายามทำสงครามและการเงินสาธารณะของยูเครนกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง หากยูเครนไม่ได้รับความช่วยเหลือจากชาติตะวันตกเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้
ชุดความช่วยเหลือทางทหารครั้งสุดท้ายของสหรัฐฯ ที่มอบแก่ยูเครน ซึ่งมีมูลค่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 8.6 พันล้านบาท) ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การอภิปรายของรัฐสภาสหรัฐฯ ในเรื่องการจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมแก่ยูเครนต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากขาดเสียงการสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน ที่ยืนยันว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้นบริเวณชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงความช่วยเหลือทางทหารใดๆ
ที่มา: