สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ FBI นำหมายค้นบุกไปยังรีสอร์ตมาร์ อา ลาโก ที่ปาล์มบีช มลรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นสถานที่อยู่อาศัยหลักในปัจจุบันของ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ แหล่งข่าวเปิดเผยกับ CNN ว่าเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นอย่างเจาะจงในพื้นที่ของคลับ ส่วนที่เป็นออฟฟิศและพื้นที่ส่วนตัวของทรัมป์
CNN รายงานว่าความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นมาตรการที่เข้มข้นอย่างมาก ท่ามกลางกระบวนการสอบสวนกรณีอื้อฉาวของทรัมป์ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ว่าด้วย 'การจัดการเอกสารการทำงานของของประธานาธิบดี' และ 'เอกสารลับของทางการ' ที่มีข้อบ่งชี้ว่าตัวอดีตประธานาธิบดีอาจนำมาแอบซ่อนไว้ ณ บ้านพักแห่งนี้
แน่นอนว่าทรัมป์มีความไม่พอใจอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะการตรวจค้นด้วยหมายค้นนั้น ตัวของอดีตประธานาธิบดีเองไม่ได้อยู่ที่บ้านพัก CBS News รายงานว่าเขากำลังทำธุระที่ทรัมป์ทาวเวอร์ในนครนิวยอร์ก ส่วน BBC ระบุว่าหลังทราบเรื่องทรัมป์ได้ออกแถลงการณ์ทันที
"นี่คือช่วงเวลาที่มือหม่นของชาติ" ทรัมป์ระบุพร้อมชี้ว่าเขาให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐมาโดยตลอด ขณะที่ "การบุกเข้าตรวจค้นโดยไม่แจ้งล่วงหน้าในครั้งนี้ไม่มีความจำเป็นเลย" พร้อมย้ำด้วยว่า "พวกเขาถึงขั้นเปิดตู้เซฟของผมด้วย"
"การข่มขู่ในลักษณะนี้มักเกิดขึ้นในกลุ่มประเทศโลกที่ 3 เท่านั้น ... น่าเศร้า ที่ตอนนี้สหรัฐฯ ได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศโลกที่ 3 ไปเรียบร้อยแล้ว"
อดีตประธานาธิบดียังย้ำด้วยว่าการกระทำดังกล่าวเป็น "การประพฤติผิดทางอัยการ" และพฤติกรรมนี้คือการ "ใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือ" เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ทรัมป์ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ในสมัยหน้า โดยอีกเพียงไม่กี่เดือนข้างหน้าทรัมป์มีแผนที่จะประกาศลงชิงตำแหน่งผู้นำอีกครั้ง
CNN รายงานว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวข้องการกรณี 'การจัดการเอกสารการทำงานของของประธานาธิบดี' และ 'เอกสารลับของทางการ' อย่างชัดเจน โดยตามที่ทราบกันอยู่แล้วก่อนหน้านี้ก็คือหลังจากการลงจากตำแหน่งผู้นำ ทรัมป์ได้ขนย้าย 'เอกสาร 15 กล่อง' ออกจากทำเนียบขาวไปไว้ที่มาร์อา ลา โก หรือบ้านพักของเขาที่ฟลอริดาในเดือน ม.ค.2563
นอกจากนั้นก็ยังมีประเด็นที่มีความพยายามทำให้เกิดความล่าช้าในการ 'ส่งเอกสารทั้งหมดคืน' ให้กับหอจดหมายเหตุแห่งชาติตามกฎหมาย เพราะภายหลังจากการหมดวาระในตำแหน่ง ประธานาธิบดีจะต้องส่งเอกสารการทำงานทั้งหมดให้หอจดหมายเหตุแห่งชาติ ซึ่งรวมถึงจดหมายและอีเมล์ทั้งหมดด้วย
โดยหอจดหมายเหตุเองก็ต้องการทราบว่า "มีอะไรอยู่ในเอกสารพวกนั้น ใครเป็นคนจัดเก็บและขนย้ายเอกสารทั้ง 15 กล่อง และใครคือผู้ขนย้ายเอกสารลับของทางการออกจากทำเนียบขาวไปยังบ้านพักส่วนตัวของทรัมป์" ผู้สื่อข่าว CNN รายงาน พร้อมชี้ว่าทำเนียบขาวไม่ทราบเรื่องของการตรวจค้นโดย FBI เช่นเดียวกัน ทีมงานของ โจ ไบเดน ทราบข่าวพร้อมๆ กับทุกคนหลังจากที่ทรัมป์ออกมายืนยันด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานออกมาอย่างต่อเนื่องถึงความพยายามในการทำลายเอกสารการทำงานโดยอดีตผู้นำ The Independent รายงานอ้างอิงหลักฐานภาพถ่ายจาก The New York Times ว่าทรัมป์พยายามทำลายเอกสารทิ้งลงชักโครกถึง 2 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกคือห้องน้ำในทำเนียบขาว และอีกหนึ่งครั้งคือในสถานที่ที่ไม่มีการเปิดเผย แต่เป็นระหว่างการเดินทางในการทำงานที่ต่างประเทศ