ไม่พบผลการค้นหา
ผู้นำโลกออกโรงประณามความรุนแรงจากรัสเซียและเดินหน้าออกมาตรการคว่ำบาตรรัฐบาลของวลาดิเมียร์ ปูติน หลังเริ่มก่อสงครามต่อประเทศยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา จนขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,000-1,800 รายซึ่งเป็นทั้งเจ้าหน้าที่ทหารและพลเรือน ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

ในทางตรงกันข้าม มหาอำนาจของโลกอย่างจีนเลือกที่จะไม่ออกมากล่าวประณามการกระทำของรัสเซียโดยตรง พร้อมเมินที่จะตอบคำถามสื่อ และตั้งใจกล่าวโทษไปยังสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรแทน โทษฐานที่เป็นต้นเหตุแห่งการทำสงครามที่กำลังดำเนินไป


“สหรัฐฯ และนาโตคือคนผิด”

บทวิเคราห์จาก CNN ชี้ว่า จีนกำลังตกอยู่ในภาวะยากลำบากหลังพันธมิตรคนสนิทอย่างรัสเซียเริ่มก่อสงครามขึ้นจริงๆ แม้อาจไม่เห็นด้วยนักแต่ก็ยังออกตัวแรงไม่ได้ มีเหตุจำเป็นที่จะต้องรักษาสัมพันธ์ต่อไป โดยเหตุการณ์ล่าสุดชี้ว่าจีนมีท่าทีบ่ายเบี่ยงการ ‘ออกตัว’ กล่าวโทษรัสเซีย

หัว ชุนหยิง ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของจีนเลี่ยงการตอบคำถามหลังถูกผู้สื่อข่าวถามในวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมาว่ารัฐบาลจีนจะกล่าวประณามการกระทำของรัสเซียหรือไม่ หรือจะเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่าเป็นการ ‘รุกราน’ หรือไม่ โดยหัวเลือกที่จะกล่าวประโยคเดิมซ้ำอย่างสุขุมเกี่ยวกับความต้องการที่จะสร้างความสันติผ่านการเจรจา และชี้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น “ไม่ใช่หนทางที่เราคาดหวังว่าจะเกิดขึ้น”

เท่านั้นยังไม่พอ หัวยังรีบแสดงความเห็นที่ชี้ว่าสหรัฐฯ คือคนผิดในเรื่องนี้เพราะดำเนินการที่เป็นการกระพือเปลวไฟที่กำลังลุกโชนให้มอดไหม้รุนแรงยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ด้วยการออกมาเตือนอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะทำการรุกรานยูเครน (หนึ่งในนั้นคือการที่ โจ ไบเดน ออกมากล่าวในวันที่ 19 ก.พ.ว่าเขาเชื่อมั่นว่ารัสเซียได้ตัดสินใจแล้วที่จะรุกรานยูเครน)

“จีนแสดงทัศนคติที่มีความรับผิดชอบมาโดยตลอดและพยายามโน้มน้าวทุกภาคส่วนไม่ให้ยกระดับความรุนแรงใดๆ หรือยั่วยุให้เกิดสงคราม ... ผู้ที่ก้าวตามการชี้นำของสหรัฐฯ ที่ได้พยายามโหมกระพือเปลวไฟให้ลุกโชน และสุดท้ายก็โบ้ยความผิดให้ผู้อื่น คือผู้ที่ไร้ความรับผิดชอบ” หัวกล่าว 

การแสดงความเห็นครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความเห็นครั้งก่อนหน้าของเธอซึ่งเป็นการโยนความผิดไปยัง ‘นาโต’ ที่ได้ “แผ่ขยายไปทางตะวันออกจนถึงประตูบ้านของรัสเซีย” โดยหัวได้ตั้งคำถามไว้ว่า “นาโตเคยคิดหรือไม่ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาหากผลักให้ประเทศขนาดใหญ่ต้องเผชิญกับภาวะหลังชนกำแพง”

CNN มองว่าการปรากฏตัวและแสดงความเห็นทั้ง 2 ครั้งล่าสุดของผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของจีนผู้นี้เป็นสิ่งที่ ‘ไม่ปกตินัก’ เพราะที่ผ่านมาหลังจากเธอได้เลื่อนตำแหน่งในเดือน ต.ค.2564 หัวไม่เคยยืนที่โพเดียมเพื่อแสดงออกในลักษณะดังกล่าวในนามของจีนเลย 


คลิปดังยอดรับชม 1,000 ล้านวิว

การนำเสนอข่าวของสื่อรัฐบาลจีนและโซเชียลมีเดียในจีนก็มีความชัดเจนไม่น้อย เมื่อสื่อกระบอกเสียงรัฐบาลอย่าง People's Daily เน้นนำเสนอข่าวที่กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า “สหรัฐฯ พยายามเพิ่มความตึงเครียดและกระตุ้นให่เกิดสงครามมาอย่างต่อเนื่อง” 

ขณะที่เหตุการณ์ปล่อยไก่ก็เกิดขึ้นเมื่อสื่อรัฐบาลอย่าง Beijing News เผลอโพสต์ข้อมูลภายในองค์กรลงในโซเชียลมีเดียที่เปิดเผยคำสั่งจากผู้บริหารว่า ห้ามพนักงานนำเสนอ “ข่าวทางลบต่อรัสเซีย และข่าวที่สนับสนุนชาติตะวันตก” และต้อง “คัดกรองและเผยแพร่เฉพาะความคิดเห็นที่เหมาะสมเท่านั้น”

คลิปที่กลายเป็นไวรัลในเว่ยป๋อด้วยยอดวิวมากกว่า 1,000 ล้านวิว คือคลิปที่ชื่อว่า “ประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่าชาติตะวันตกยอมแพ้ที่จะให้การช่วยเหลือแล้ว” โดยมีการแสดงความเห็นหลายหมื่นครั้ง ขณะที่คลิปการกล่าวสุนทรพจน์ของปูติน ก็มียอดวิวมากกว่า 360 ล้านครั้ง พร้อมคอมเมนต์เชิง ‘หนุนปูติน’ มากมาย

คอมเมนต์จำนวนมากเป็นการล้อเลียนประเทศยูเครนและประธานาธิบดียูเครนด้วยเหตุผลที่ว่า “ผู้นำยูเครนสนับสนุนชาติตะวันตก” และมีการแสดงความเห็นชื่นชมและเชียร์ปูตินกันจำนวนมาก แต่คอมเมนต์จำนวนไม่น้อยที่ระบุว่า “สงครามไม่ใช่เรื่องสนุก ไม่ใช่เรื่องควรล้อเล่น” และ “มันทำให้ฉันป่วยกายขึ้นมาจริงๆ ที่ได้เห็นพวกคอมเมนต์ที่เอาเรื่องสงครามมาล้อเล่นแบบนี้”

แม้จีนจะปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการเปิดฉากสงครามกับยูเครนของรัสเซียที่เกิดขึ้นหลัง ‘ปักกิ่ง 2022’ ไม่นาน แต่ผู้นำชาติตะวันตกต่างจับตาใกล้ชิดถึงความสัมพันธ์สองผู้นำ จีน-รัสเซีย ว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะหลังจากที่ล่าสุดได้มีการพบกันก่อนการเปิดฉากโอลิมปิกฤดูหนาวในกรุงปักกิ่ง ซึ่งสีจิ้นผิงและปูตินได้ประกาศให้โลกได้รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซีย เป็นความสัมพันธ์ที่ “ไม่มีลิมิต”