ชายชาวอเมริกันหายตัวไปกว่า 20 ปี แต่เพิ่งกู้ศพขึ้นมาได้ หลังมีคนเห็นรถยนต์จมอยู่ในทะเลสาบจากภาพถ่ายดาวเทียมของกูเกิล
ตำรวจมลรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 1997 ว่า วิลเลียม โมลด์ต ชายวัย 40 ปีหายตัวไปหลังออกไปเที่ยวไนท์คลับ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า โมลด์ตไปเที่ยวแล้วโทรหาแฟนสาวเมื่อเวลา 21.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ว่ากำลังจะกลับบ้านแล้ว จนเวลา 23.00 น. เขาก็ออกจากคลับ แต่ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย
ตำรวจสืบสวนสอบสวนกรณีการหายไปของเขาอยู่นานแต่ก็ยังไม่สามารถปิดคดีได้ จนเวลาล่วงเลยมาเป็นเวลาถึง 22 ปี เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบรถยนต์ในบ่อน้ำบริเวณมูนเบย์ เซอร์เคิล และเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ซากรถยนต์ขึ้นมาจากน้ำได้ ก็พบศพอยู่ด้านในด้วย จากนั้นก็มีการชันสูตรแล้วว่าเป็นร่างของโมลด์ต
ตำรวจเปิดเผยว่า ชายคนหนึ่งที่เคยอาศัยอยู่ในบริเวณมูนเบย์เซอร์เคิลได้ค้นหาแผนที่ในกูเกิลและเปิดไปที่โหมดภาพถ่ายจากดาวเทียม แล้วก็พบว่า มีรถยนต์สีขาวจมอยู่ในบ่อน้ำ เขาจึงได้บอกเล่าให้คนที่ยังอาศัยอยู่บริเวณนั้น เขาจึงตัดสินใจใช้โดรนส่วนตัวบินไปสำรวจบริเวณที่เห็นซากรถยนต์ในกูเกิลแมพส์ แล้วก็พบว่ามีรถยนต์จมอยู่จริง จึงแจ้งตำรวจ
ตำรวจปาล์มบีชเคาน์ตีสันนิษฐานว่า รถยนต์ของโมลด์ตน่าจะสูญเสียการควบคุมจนตกบ่อน้ำไป แต่ก็ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ในช่วงหลายปีก่อน รู้แต่เพียงโมลด์ตหายไป และตอนนี้เจอศพเขาแล้ว
รายงานจากชาร์ลีย์โปรเจกต์ ฐานข้อมูลคดีที่ยังปิดไม่ลงในสหรัฐฯ ระบุว่า โมลด์ตเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสังสรรค์มากนัก แต่วันนั้นเขาดื่มไปหลายแก้วก่อนจะขับรถยนต์ออกจากคลับ ส่วนภาพรถยนต์ที่จมอยู่ สามารถมองเห็นจากภาพถ่ายดาวเทียมของกูเกิลมาตั้งแต่ปี 2007 แล้วแต่ไม่มีใครเคยสังเกตมาก่อน จนกระทั่งปี 2019
ด้านแบร์รี เฟย์ เจ้าของบ้านที่อยู่ใกล้กับจุดที่รถยนต์จมอยู่กล่าวว่า เขาไม่เคยมองเห็นรถยนต์จากริมบ่อน้ำเลย และไม่เคยเชื่อเลยว่าจะมีศพอยู่บริเวณนั้นมานานถึง 22 ปีแล้ว
เมื่อปี 2016 ก็มีกรณีคล้ายกันนี้ มีการพบรถยนต์จมน้ำในบ่อน้ำที่มิชิแกน ทำให้พบเดวี ลี ไนล์ส ชายวัย 76 ปีที่หายตัวไปนานหลายปี ทั้งที่รถยนต์คันดังกล่าวก็อยู่ในภาพถ่ายดาวเทียมของกูเกิลมานานหลายปีแล้ว