ไม่พบผลการค้นหา
อิหร่านออกมาปฏิเสธว่าตนเองไม่เกี่ยวข้อง “โดยสิ้นเชิง” กับผู้ต้องหา ที่พยายามเข้าลอบสังหาร ซัลมาน รัชดี นักเขียนเชื้อสายอินเดีย-สหราชอาณาจักร เจ้าของหนังสือเนื้อหาหมิ่นศาสนาอิสลาม ก่อนกล่าวโทษว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นความผิดของรัชดีเอง

รัชดีในวัย 75 ปี เจ้าของผลงานเขียนดังอย่าง The Satanic Verses ถูกพยายามลอบสังหารจากการแทงด้วยมีดนับสิบแผลบนเวทีที่เมืองบัพฟาโล มลรัฐนิวยอร์ก หลังจากที่รัชดีมีกำหนดการขึ้นพูดในหัวข้อเรื่องเสรีภาพทางคำพูด อย่างไรก็ดี รัชดีสามารถพูดได้โดยไม่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจแล้ว ทั้งนี้ รัชดีโดนขู่ฆ่าจากกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงมานานนับทศวรรษ

ก่อนหน้านี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวหาอิหร่านว่าดูหมิ่นต่อการโจมตีนักเขียนดังรายดังกล่าว ก่อนเรียกว่าพฤติกรรมดังกล่าวของสื่ออิหร่านที่นำเสนอข่าวสนับสนุนการโจมตีลอบสังหารเป็นพฤติกรรมที่ “น่ารังเกียจ”

สื่อของอิหร่านต่างออกมาให้ความเห็น ต่อความพยายามในการลอบสังหารรัชดีว่าเป็น “การลงทัณฑ์จากพระผู้เป็นเจ้า” นอกจากนี้ จาม-อี แจม สื่อของรัฐบาลอิหร่าน ได้ออกมากล่าวถึงอาการที่รัชดีประสบ จากการสูญเสียตาข้างหนึ่งของเขาภายหลังความพยายามในการลอบสังหาร ด้วยการแทงเข้าไปที่บริเวณคอว่าเป็น “ตาของซาตานได้ถูกทำให้บอดไปแล้ว”

ตลอดเวลานานนับหลายทศวรรษที่ผ่านมา ผู้นำทางจิตวิญญาณของอิหร่านได้ประกาศตั้งค่าหัว เพื่อการลอบสังหารรัชดี สืบเนื่องจากการเผยแพร่งานเขียนของเขาที่มีเนื้อหาหมิ่นศาสนาอิสลาม โดยหนังสือของเขาถูกห้ามขายในประเทศมุสลิมทั่วทั้งตะวันออกกลางและแอฟริกา

อย่างไรก็ดี นัสเซอร์ คานาอินี เตหะราน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ได้ออกมาปฏิเสธว่าอิหร่านไม่เกี่ยวข้อง “โดยสิ้นเชิง” จากความพยายามในการลอบสังหารรัชดี ก่อนที่จะย้ำว่า “ไม่มีใครมีสิทธิที่จะมากล่าวหาสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน”

นัสเซอร์ชี้ว่า หลักการเสรีภาพทางคำพูดไม่ได้รับรองความถูกต้องให้แก่รัชดี ในการเขียนหนังสือเพื่อโจมตีศาสนาของพวกตน “ในการโจมตีครั้งนี้ เราไม่ได้พิจารณาถึงใครนอกเสียจาก ซัลมาน รัชดี และผู้ที่ให้การสนับสนุนของเขา ที่สมควรแก่การถูกกล่าวโทษ และแม้แต่การถูกประณาม” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านย้ำ

นัสเซอร์ชี้ว่า ไม่มีหลักฐานอื่นใดที่ชี้ว่าอิหร่านเกี่ยวข้องกับผู้ที่ความพยายามในการลอบสังหารรัชดี ในขณะที่บลิงเคนออกมาประณามอิหร่านว่ามีความพยายาม ในการยั่วยุเพื่อก่อให้เกิดการใช้ความรุนแรงต่อนักเขียนรายดังกล่าว บลิงเคนย้ำว่ารัชดี “ยืนหยัดเพื่อสิทธิสากลแห่งเสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพในการนับถือศาสนาหรือความเชื่อ และเสรีภาพของสื่อมวลชน”

เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) ลูกชายของรัชดีออกมาแถลงว่า รัชดียังคงอยู่ในอาการวิกฤต “แต่ความบาดเจ็บสาหัสที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปนั้นร้ายแรง อารมณ์ขันที่แก่นซ่าและท้าทายของเขายังคงอยู่เหมือนเดิม” ทั้งนี้ ทางครอบครัวรู้สึก “โล่งใจอย่างมาก” หลังจากการที่รัชดีสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้ และรัชดีสามารถ “พูดได้สองสามคำ”

ทั้งนี้ รัชดีได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณเส้นประสาทที่แขนข้างหนึ่ง ตับ และอาจจะสูญเสียการมองเห็นจากดวงตาข้างหนึ่ง โดยชายที่เข้าพยายามลอบสังหารรัชดี คือ ฮาดี มาทาร์ วัย 24 ปี ถูกตับกุมตัว พร้อมปฏิเสธความผิดฐานเตรียมการเพื่อการพยายามฆาตกรรมและการทำร้ายร่างกาย โดยเขาถูกกล่าวหาว่าเขาวิ่งขึ้นไปบนเวทีที่รัชดีกำลังขึ้นพูด ก่อนที่จะทำการแทงรัชดีอย่างน้อย 10 ครั้ง ในช่วงใบหน้า ลำคอ และหน้าท้อง

รัชดีจำเป็นจะต้องลี้ภัยมาเป็นเวลานานนับ 10 ปี สืบเนื่องจากการถูกขู่ฆ่าโดยกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง ที่กล่าวหาว่าหนังสือ The Satanic Verses ซึ่งได้รับการตีพิมพ์เมื่อปี 2531 ของเขา มีเนื้อหาหมิ่นศาสนาอิสลาม และศาสดาของพวกตนอย่างมูฮัมหมัด

อายะตุลเลาะห์ รูฮุลลอฮ์ โคมัยนี อดีตผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เคยออกมาตั้งค่าหัวในการสังหารรัชดี ด้วยเงินจำนวน 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 100 ล้านบาท) แลกกับหัวของรัชดี ทั้งนี้ การประกาศตั้งค่าหัวดังกล่าวของอดีตผู้นำสูงสุดของอิหร่านยังคงมีผลบังคับใช้ แม้ว่ารัฐบาลอิหร่านจะพยายามรักษาระยะห่างของตนเอง ออกจากการประกาศตั้งค่าหัวของโคมัยนี อย่างไรก็ดี มูลนิธิศาสนากึ่งทางการของอิหร่าน ได้เพิ่มเงินรางวัลล่าหัวรัชดีเพิ่มอีก 500,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 17 ล้านบาท) ในปี 2555 ที่ผ่านมา


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-us-canada-62546469?fbclid=IwAR0tywjqU6aIEDFt13gRv0ndJd3JCUWO05KiSShR86znL9j0mRMGShM_N1s