สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตกหลายแห่งพบหลักฐานว่า จีนมีการใช้แรงงานชาวอุยกูร์ ตลอดจนชี้ว่าจีนกำลังก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติผ่านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์ ทั้งนี้ ชนกลุ่มน้อยมุสลิมในพื้นที่บริเวณซินเจียงยังถูกจับเข้าค่ายปรับทัศนคติ ทำหมัน ตลอดจนการใช้แรงงานในไร่ฝ้ายของรัฐบาลเป็นหลัก
ด้วยเหตุนี้ รัฐสภาสหรัฐฯ จึงผ่านกฎหมายแบนการนำเข้าสินค้าจากซินเจียง โดยกฎหมายฉบับนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบริษัทหลายแห่งที่ตั้งฐานของตนบริเวณซินเจียง เช่น โคคาโคล่า ไนกี้ และแอปเปิ้ล ทั้งนี้ มติของวุฒิสภาสหรัฐฯ ทำการลงคะแนนเลือกแบนสินค้านำเข้าจากซินเจียง โดยมีคะแนนค้านเพียงแค่คะแนนเดียว อย่างไรก็ดี กฎหมายฉบับดังกล่าวไม่ได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากทางทำเนียบขาว
กฎหมายป้องกันการบังคับใช้แรงงานอุยกูร์ คือชื่อทางการของกฎหมายฉบับนี้ โดยหลังจากที่รัฐสภาสหรัฐฯ ให้การรับรองกฎหมายฉบับนี้แล้ว มันจะถูกส่งต่อไปยัง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อทำการลงนาม และจะทำให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ในทันที
ก่อนหน้านี้ จาว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ตอบคำถามถึงแนวโน้มที่สหรัฐฯ จะทำการคว่ำบาตรจีนในระลอกใหม่จากกรณีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์ว่า “ด้วยการขยายตัวของแนวคิดด้านความมั่นคงแห่งชาติ นักการเมืองสหรัฐฯ บางคนได้ใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงประเด็นทางเศรษฐกิจและการค้าบนพื้นฐานทางอุดมการณ์” จาวระบุ
“สิ่งนี้ขัดต่อหลักการทางตลาดทางเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่เป็นธรรม มันเพียงแต่จะคุกคามและทำลายความมั่นคงด้านอุตสาหกรรม และห่วงโซ่อุปทานโลก รวมถึงเป็นบ่อนการทำลายกฎการค้าระหว่างประเทศ” จาวกล่าวเสริม
นอกจากนี้แล้ว สหรัฐฯ รวมถึงสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และแคนาดาประกาศว่า พวกเขาจะไม่ส่งตัวแทนทางการทูตเข้าร่วมงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ณ กรุงปักกิ่ง ด้วยเหตุผลการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวอุยกูร์ในพื้นที่ซินเจียงของรัฐบาลจีนเช่นกัน
ที่มา: